มอบประโยชน์ที่ยั่งยืนให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง

ความปรารถนาที่จะเป็นเพื่อนและประโยชน์ต่อสุขภาพจิตที่สัตว์มีให้เป็นเพียงสองปัจจัยที่ส่งผลให้ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกมีสัตว์เลี้ยง ด้วยสัตว์เลี้ยงทั้งหมดหนึ่งพันล้านตัวทั่วโลก ตลาดการดูแลสัตว์เลี้ยงทั่วโลกกำลังขยายตัวเจ็ดเปอร์เซ็นต์ต่อปีและคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 5.5 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2575 ตามรายงานของ Global Market Insights Inc.

Pethealth ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Independence Pet Group ® (IPG) อยู่ในสถานะพร้อมใช้ประโยชน์จากการเติบโตนี้ Pethealth ดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นกลุ่มแบรนด์ที่กำลังเติบโตซึ่งมีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เช่น ไมโครชิปและบริการตามหาสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย การรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และการค้าปลีกของใช้สัตว์เลี้ยงสำหรับที่พักพิง สัตวแพทย์ และเจ้าของสัตว์เลี้ยง

การสร้างระบบนิเวศสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยง

วิสัยทัศน์ของ Pethealth คือการรวมจุดแข็งของแบรนด์ต่างๆ ได้แก่ 24Pet, 24Petwatch, 24Petconnect, 24Petcare และ PetPlace เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพ สุขภาวะที่ดี และความปลอดภัยที่สอดคล้องกันในที่เดียวสำหรับผู้คนที่ดูแลสัตว์เลี้ยง วิธีการนี้ยังช่วยให้ Pethealth สามารถมอบคุณค่าในทุกแง่มุมของการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง รวมทั้งขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโตอย่างต่อเนื่องภายในองค์กร IPG ที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งรวมถึงแบรนด์ประกันภัยสัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียง เช่น ASPCA Pet Health Insurance, Figo, AKC Pet Insurance, Pets Plus Us และ PetPartners

ทีมเทคโนโลยีการตลาดที่ตั้งขึ้นใหม่ของบริษัทมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของ Pethealth Andrew Behrend ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีการตลาดและการขาย เป็นผู้นำทีมและ Avinash Gopalakrishnan ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีการตลาดสนับสนุนความพยายามในการสร้างศูนย์ความเป็นเลิศด้าน martech ในหลายๆ แบรนด์ขององค์กรใหม่

“ด้วยจำนวนธุรกิจที่เรามีและจำนวนระบบที่แตกต่างกัน เราจึงเผชิญกับความท้าทายในการผสานรวมทุกอย่างจากทั้งมุมมองด้านไอทีและธุรกิจ” Andrew อธิบาย “งานของเราคือการรวมงานการตลาดให้อยู่ในชุดเทคโนโลยี martech เดียวเพื่อให้แบรนด์ต่างๆ ของเราทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมอบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกันซึ่งเป็นแรงผลักดันการเติบโต”

“Experience Manager Sites ช่วยให้ความยืดหยุ่นแก่เราอย่างมาก เราสามารถ deploy เป็นชุดเทคโนโลยีเดียวหรือช่วยให้ทีมเข้าถึงเครื่องมือได้ในทันทีที่ต้องใช้ หากผู้ใช้ต้องการแบบ headless ก็สามารถทำได้”

Andrew Behrend

ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีการตลาดและการขายของ IPG

การสร้างรากฐานเนื้อหาที่ขยายการรองรับ

ก่อนหน้านี้แต่ละแบรนด์ของ Pethealth ใช้ Content Management System (CMS) ของตนเองภายในองค์กร ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์เว็บไซต์และแบรนด์ในภาวะไซโลทั่วทั้งบริษัท ระบบที่ล้าสมัยส่งผลให้เกิดหนี้ทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูง และบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์ ความยืดหยุ่น และความคล่องตัวของทีมการตลาด การขาดการมองเห็นข้อมูลข้ามทีมส่งผลให้เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและจำกัดความสามารถในการขยายการรองรับการสร้างเนื้อหา นอกจากนี้ ความซับซ้อนทางเทคนิคของระบบจำเป็นต้องมีการจัดการโดยฝ่ายไอที ซึ่งทำให้การนำข้อมูลและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดล่าช้าออกไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งจะต้องดำเนินการผ่านฝ่ายไอที

หลังจากการตรวจสอบตัวเลือก CMS ที่มีอยู่ ทีม martech ได้เลือก Adobe Experience Manager Sites as a Cloud Service แพลตฟอร์มนี้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการโฮสต์ช่องทางและแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมดของบริษัทบนระบบคลาวด์ ระบบคลาวด์เนทีฟจะช่วยขจัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการโฮสต์ภายในองค์กรและความกังวลเรื่องขนาดที่จำเป็นสำหรับ managed services Andrew และทีมยังชื่นชอบที่กระบวนการดังกล่าวช่วยลดต้นทุนการรวม CMS, การโฮสต์, การอัปเกรด และการขยายการรองรับเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

“ระบบคลาวด์ทำให้นักการตลาดของเราได้ทำงานด้านการตลาดที่ตนเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ แทนที่จะต้องเสียเวลากับการบำรุงรักษาหรือการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ” Avinash กล่าว

การย้ายไปยังระบบที่สนับสนุนทั้งนักการตลาดและฝ่ายไอทีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ Pethealth เนื่องจากช่วยให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันและมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องและเชื่อมโยงกับลูกค้าได้มากขึ้น การผสานการทำงานกับชุดเทคโนโลยีของ Adobe ที่ครอบคลุมรวมถึง Adobe Analytics และ Adobe Target ทำให้บริษัทพร้อมมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอเฉพาะบุคคลต่อไป

“Experience Manager Sites ช่วยให้ความยืดหยุ่นแก่เราอย่างมาก” Andrew กล่าว "เราสามารถ deploy เป็นชุดเทคโนโลยีเดียวหรือช่วยให้ทีมเข้าถึงเครื่องมือได้ในทันทีที่ต้องใช้ หากผู้ใช้ต้องการแบบ headless ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้เรายังสามารถมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลแก่ลูกค้าจำนวนมหาศาล ซึ่งเราไม่เคยทำได้มาก่อน”

นำเสนอเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเร็วขึ้น

เว็บไซต์ 24Petwatch เป็นช่องทางแรกที่เปิดตัวใน CMS ใหม่ตามด้วย 24Pet ด้วยการใช้ระบบการออกแบบที่สอดคล้องกัน ทีมงานสามารถสร้างเว็บไซต์ใหม่ด้วยสไตล์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ในแต่ละครั้ง

การเปิดตัวการอัปเดตเว็บไซต์ก็เร็วขึ้นเช่นกัน แทนที่จะรอการ deploy ด้านไอทีรายเดือน ทีม martech ทำงานแบบ agile เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้เว็บไซต์ได้รับการอัปเดตและส่งมอบผลลัพธ์ได้อย่างสำเร็จ ทิกเก็ตเนื้อหาที่เคยใช้เวลาดำเนินการผ่านฝ่ายไอทีนานถึงสองเดือน ตอนนี้สามารถเสร็จสิ้นได้ในเวลาเพียง 10 วัน เร็วขึ้น 80%

“Experience Manager Sites มีประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” Andrew กล่าว “ทีมการตลาดของเราทำงานได้เร็วขึ้นเป็นสองเท่าและลูกค้าได้รับประโยชน์จากข้อมูลที่เหมาะสมกับเวลาและสอดคล้องกันมากขึ้นผ่านช่องทางของเรา”

ทีมงานยังมุ่งเน้นไปที่การใช้งานเวิร์กโฟลว์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการนำสภาพแวดล้อมของ Adobe ไปใช้ในวงกว้าง เช่น การอนุญาตให้ผู้ใช้ทางธุรกิจที่ไม่มีทักษะทางเทคนิคสามารถดำเนินการแบบ self-serve ได้โดยการอัปโหลด assets, การเขียนเนื้อหา และการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า “เราต้องการให้ทีมงานสามารถสร้างแลนดิ้งเพจได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เทมเพลตที่ได้รับการอนุมัติในการเพิ่มข้อความ รูปภาพ และเผยแพร่” Andrew กล่าว

“เมื่อเปิดใช้งานการผสานการทำงานแบบเนทีฟระหว่าง Experience Manager และ Analytics แล้ว การตั้งค่าหน้าเว็บใหม่จะใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เพียงเข้าไปที่ Experience Manager เปิดใช้งาน แล้ว Analytics จะเริ่มเก็บข้อมูลตามคอมโพเนนต์หลักของ Experience Manager”

Avinash Gopalakrishnan

ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีการตลาดของ IPG

เปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

ประโยชน์อีกประการหนึ่งของการเลือกใช้ Experience Manager คือเป็นส่วนหนึ่งของชุดโซลูชันโดยรวมที่ช่วยให้ทีมสามารถทำได้มากกว่าการดำเนินงานเว็บไซต์เพื่อมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมตลอดกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ความพยายามในการวางรากฐานดิจิทัลของบริษัทยังขยายไปถึงการได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมลูกค้าและการปรับแต่งปฏิสัมพันธ์ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย

ทีมงานได้ใช้การผสานการทำงานในระบบระหว่าง Experience Manager และ Analytics แทนที่จะตั้งค่าเลเยอร์ข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งโดยปกติแล้วจำเป็นสำหรับโซลูชันการวิเคราะห์ ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ ข้อกำหนดต่างๆ และ SDI ก็พร้อมใช้งาน ทั้งยังตั้งค่าการผสานการทำงานเสร็จสิ้น ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาสองถึงสามเดือน การใช้คอมโพเนนต์หลักและกระบวนการกดปุ่มภายในอินเทอร์เฟซ Experience Manager ทีมจะเปิดใช้งาน Analytics ได้อย่างง่ายดายสำหรับข้อมูลเชิงลึกระดับหน้าเว็บและข้อมูลระดับคอมโพเนนต์

นักการตลาดใช้แดชบอร์ดที่พร้อมใช้งานได้ทันทีเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพื่อให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า ทีมยังได้ผสานการทำงานของ Analytics เข้ากับแดชบอร์ด Microsoft Power BI เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกได้และช่วยให้ทีมสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วในที่เดียว สร้างรายงาน และแชร์กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

“เมื่อเปิดใช้งานการผสานการทำงานแบบเนทีฟระหว่าง Experience Manager และ Analytics แล้ว การตั้งค่าหน้าเว็บใหม่จะใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เพียงเข้าไปที่ Experience Manager เปิดใช้งาน แล้ว Analytics จะเริ่มเก็บข้อมูลตามคอมโพเนนต์หลักของ Experience Manager เป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกตั้งแต่การแสดงภาพไปจนถึงการนำเข้าข้อมูล” Avinash กล่าว

ด้วยคำแนะนำจาก Adobe Ultimate Supportทีม martech ได้รวมผสานการทำงานของ Target เข้ากับ Analytics และ Experience Manager Sites และเพิ่มประสิทธิภาพส่วนต่างๆ ของกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การนำ Target มาใช้ทั่วทั้งองค์กรจะช่วยรวมและปรับปรุงชุดเทคโนโลยี martech และอาจแทนที่โซลูชันการทดสอบของ third-party นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างๆ

มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

หลังจากตั้งค่าสภาพแวดล้อมใหม่สำเร็จ เปิดตัวเว็บไซต์แรก และย้ายเว็บไซต์อื่นๆ อีกหลายเว็บไซต์ และใช้การรีแบรนด์แบบองค์รวม ทีมม martech ยังคงรักษาการทำงานที่มีประสิทธิภาพได้ต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปรับปรุงการสร้างเนื้อหา การจัดการ และการเผยแพร่ ซึ่งรวมถึงการนำระบบ digital asset management ขององค์กรมาใช้เป็น single source of truth และสร้างเวิร์กโฟลว์เกี่ยวกับการสร้าง การอนุมัติ และการนำเนื้อหาไปใช้กับธุรกิจในทุกช่องทาง

เมื่อมีรากฐานที่มั่นคงอยู่แล้ว ทีมจึงมั่นใจว่าดำเนินการไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อเพิ่มความก้าวหน้า Pethealth ยังใช้ Edge Delivery Services ใน Adobe Experience Manager as a Cloud Service และการเขียนแบบเอกสาร นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ทีมสามารถมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วทันใจ เร่งการพัฒนา และทำให้การสร้างเนื้อหาเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์เชิงบวกทางธุรกิจในที่สุด

เมื่อทบทวนถึงขั้นตอนการใช้งานจนถึงตอนนี้ Andrew กล่าวว่า “Experience Manager ช่วยให้เราสามารถรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเรื่องราวที่ชัดเจนและน่าสนใจมากขึ้น ถือเป็นการขับเคลื่อนภารกิจของเราในการนำเสนอโซลูชันที่เสริมสร้างความผูกพันตลอดชีวิตระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ”

แนะนำสำหรับคุณ

Content as a Service - Tuesday, October 17, 2023 at 13:37 (no-lazy)

ดูเรื่องราวของลูกค้าทั้งหมด

https://main--bacom--adobecom.hlx.page/fragments/customer-success-stories/contact-footer

title

Pethealth นำเสนอเนื้อหาใหม่ในตลาดได้เร็วขึ้น 82%

created

2023-10-17

cardImageAltText

Pethealth

cardImage

badgeImage

primaryTag

caas:content-type/customer-story

Tags

caas:content-type/customer-story, caas:products/adobe-experience-manager-sites, caas:products/adobe-analytics, caas:products/adobe-target