ร้อยเรียงเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงโลก

เครื่องมืออันชาญฉลาดเพื่อการทำงานที่ดีขึ้น

เมื่อพูดถึงโครงสร้างพื้นฐานในโลก ทุกรายละเอียดล้วนมีความสำคัญ ตั้งแต่การออกแบบเมืองแห่งอนาคตไปจนถึงการส่งมอบโซลูชันพลังงานที่ยั่งยืน งานของ AECOM มีส่วนในการกำหนดรูปแบบสถานที่ที่เราอาศัย ทำงาน และเติบโต แต่สำหรับ Juli Anderson ผู้อำนวยการฝ่าย brand and creative และหัวหน้าฝ่าย brand programs ระดับโลก, John Van Der Holst หัวหน้าฝ่าย technical practice for multimedia strategy ในแคนาดา และ Matt Timmins หัวหน้าฝ่าย creative strategy ระดับโลก ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงสิ่งที่บริษัทสร้างขึ้น แต่ยังรวมถึงวิธีเล่าเรื่องราวนั้นด้วย

ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกที่มีพนักงานมากกว่า 50,000 คน ทีมงานของ AECOM มีหน้าที่ผลิต assets งานครีเอทีฟที่จะสร้างความเชื่อมั่นและทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมข้อเสนอสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่บริสเบนหรือการสร้างภาพแสดงเรื่องราวสำหรับลูกค้าธุรกิจรถไฟ ทุกโปรเจกต์ล้วนมีความเสี่ยงสูงและเต็มไปด้วยความคาดหวังไม่หยุดหย่อน

ความจำเป็นในการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกันทั่วทั้งองค์กรขนาดใหญ่ ประกอบกับเดดไลน์ที่กระชั้นชิด ทำให้ทีมครีเอทีฟต้องทำงานหนักเกินขีดจำกัด เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ Anderson, Timmins และ Van Der Holst จึงใช้ความสามารถในการสร้างแบรนด์ร่วมกันของ Adobe Express และความสามารถในการสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในตัว Adobe Firefly ด้วยการผสานรวมเครื่องมือเหล่านี้เข้ากับงานประจำวัน วิธีที่ทีมงานของ AECOM สร้างสรรค์ ทำงานร่วมกัน และส่งมอบผลลัพธ์ได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งทำให้ดำเนินการทุกขั้นตอนดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพ

ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ให้สร้างเนื้อหาได้ง่าย

ทีมครีเอทีฟของ AECOM ต้องการวิธีที่จะตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นโดยไม่กระทบต่อคุณภาพหรือความสอดคล้องของแบรนด์ระหว่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าทีมที่รับผิดชอบการประมูลและแคมเปญสำคัญๆ ในระดับโลก Anderson รู้ว่าทีมของเธอกำลังเสียเวลาอันมีค่าไปกับงานที่ซ้ำซาก

ด้วยการนำเทมเพลตโซเชียลมีเดียที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าซึ่งออกแบบโดย Timmins ใน Adobe Express มาใช้ ทีมของ Anderson จึงลดได้ทั้งเวลาในการผลิตและกระบวนการอนุมัติ “เราได้สร้างชุดเทมเพลตทั้งหมดใน Adobe Express สำหรับเนื้อหาอย่างโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ทีมครีเอทีฟของเราเคยใช้เวลาสองชั่วโมงในการผลิตไทล์โซเชียลมีเดียหนึ่งชิ้น แต่ด้วย Adobe Express เราลดเวลาลงเหลือเพียง 10 นาที” Anderson กล่าว

นอกจากจะประหยัดเวลาในการผลิตแล้ว ทีมของ Anderson ยังได้สร้างเวิร์กโฟลว์การอนุมัติที่ไร้รอยต่อ ด้วย Adobe Express ไทล์โซเชียลจะได้รับการตรวจสอบ อัปเดต และอนุมัติภายในแพลตฟอร์ม ซึ่งลดระยะเวลาดำเนินการจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง เวิร์กโฟลว์ใหม่ยังช่วยให้ทีมการตลาด ทีมสื่อสาร และทีมออกแบบทำงานร่วมกันในทิศทางเดียวกันได้ดีขึ้นแม้จะอยู่คนละประเทศและเขตเวลา

ความสอดคล้องของแบรนด์ระดับโลกในเครือข่ายขนาดใหญ่ของ AECOM เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง “Adobe Express กำลังเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา โดยช่วยให้เรา deploy เทมเพลตบนคลาวด์ได้ทันที อัปเดต และเผยแพร่ทั่วโลก ทำให้ทุกคนทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันจากแหล่งที่มาเดียว” Anderson กล่าว กระบวนการนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการส่งไฟล์ขนาดใหญ่โดยหวังว่าแต่ละทีมจะนำไปใช้อย่างเหมาะสมซึ่งช่วยประหยัดเวลา โดยทุก asset สอดคล้องกับมาตรฐานแบรนด์ระดับโลกของ AECOM

ยกระดับการผลิตวิดีโอ

ในขณะที่ Anderson และ Timmins ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ของแคมเปญ Van Der Holst หัวหน้าฝ่าย technical practice และทีมมัลติมีเดียก็รับมือกับความท้าทายเรื่องไทม์ไลน์ที่กระชั้นชิดและความต้องการที่ซับซ้อนของลูกค้า ทีมมุ่งหมายจะส่งมอบโปรเจกต์ที่แปลกใหม่และดึงดูดสายตาซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ของ AECOM ขณะเดียวกันก็สามารถทำตามเดดไลน์ที่เร่งด่วนได้

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Van Der Holst จึงหันมาใช้ Adobe Firefly ซึ่งสร้างภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI และปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละโปรเจกต์โดยเฉพาะ เมื่อทีมทำงานร่วมกับลูกค้ารายหนึ่งในธุรกิจรถไฟเพื่อแสดงให้เห็นว่ารถไฟบรรทุกสินค้าวิ่งแซงหน้ารถไฟโดยสารอย่างไร ตอนแรกทีมเจอปัญหาในการหามุมมองที่เหมาะสม “ตอนนั้น เราคิดไอเดียสร้างสรรค์ไม่ออกเลย” Van Der Holst ยอมรับ “จากนั้น Firefly ก็ช่วยให้เราค้นพบทางออก โดยพาเราเข้าไปในรถไฟและแสดงภาพรถไฟบรรทุกสินค้าวิ่งแซงหน้าจากมุมมองของผู้โดยสาร ซึ่งเป็นไอเดียที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนและเปลี่ยนวิธีที่เราเล่าเรื่องราว”

เมื่อนำภาพที่สร้างโดย Firefly มาผนวกกับความเชี่ยวชาญที่มี ทีมของ Van Der Holst จึงสามารถสร้างสตอรี่บอร์ดได้ภายในไม่กี่วัน จากที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและแสดงให้เห็นว่า AECOM สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ภายใต้แรงกดดัน

ต่อยอดจากความสำเร็จนี้ Adobe Express กลายเป็นเครื่องมือสำคัญอีกตัวในเวิร์กโฟลว์ของ Van Der Holst ทีมซึ่งมีหน้าที่สร้าง assets มัลติมีเดียสำหรับโปรเจกต์ของลูกค้าเริ่มใช้ Adobe Express เพื่อแปลงไอเดียให้เป็นจริงอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มจากเทมเพลตแบรนด์ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าและใช้ประโยชน์จากรูปภาพ Adobe Stock ทีมสามารถเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นผลงานที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ

ทีมยังได้ผสานรวม Frame.io Enterprise เพื่อปรับปรุงกระบวนการหลังการผลิต ด้วยข้อเสนอแนะที่แม่นยำตามเวลาและการอนุมัติเนื้อหาที่ไร้รอยต่อ ทีมจึงเร่งการส่งมอบวิดีโอได้อย่างมาก “Frame.io ได้เร่งกระบวนการตรวจสอบ ทำให้เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและส่งมอบวิดีโอที่มีคุณภาพได้เร็วกว่าที่เคย” Van Der Holst กล่าว ด้วยความสามารถของ Adobe Express และ Frame.io ตอนนี้ทีมสามารถนำแนวคิดจากบทสนทนากับลูกค้าไปสร้างผลงานที่เสร็จสมบูรณ์ถึง 80% ได้อย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ ช่วยให้การตัดสินใจและการอนุมัติของลูกค้าเร็วขึ้น

เพิ่มศักยภาพทีมและยกระดับความคิดสร้างสรรค์

แม้ว่าการประหยัดเวลาจะเป็นเรื่องสำคัญ Anderson และ Van Der Holst ก็เห็นว่าเครื่องมือของ Adobe ยังเพิ่มศักยภาพทีมให้ทำงานได้ฉลาดขึ้นและคิดใหญ่ขึ้น ด้วยการปรับงานที่ต้องทำซ้ำๆ ให้เป็นระบบอัตโนมัติ ครีเอทีฟระดับจูเนียร์ที่เคยเน้นงานการผลิตก็สามารถมีส่วนร่วมในงานด้านกลยุทธ์และการศึกษาข้อมูลได้

“การประหยัดเวลาที่เราได้รับจากการใช้เทมเพลต Adobe Express ทำให้ครีเอทีฟระดับจูเนียร์ของเราไม่ต้องติดอยู่กับงานที่มีมูลค่าต่ำอีกต่อไป แต่จะทำงานร่วมกับสมาชิกทีมอาวุโสในงานเชิงแนวคิดระดับสูงและร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ” Anderson กล่าว

ในขณะเดียวกัน Adobe Express ช่วยทีมส่งมอบกลยุทธ์ด้านเนื้อหาโดยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ให้มากกว่าแค่การออกแบบ “เปิดโอกาสให้เราได้มุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของการสื่อสารมากขึ้น ทำให้นักเขียนของเรามีข้อได้เปรียบในการสำรวจและปรับแต่งตัวเลือกสร้างสรรค์ที่แตกต่างกันด้วยการออกแบบแบบทันที” Timmins กล่าว “เรายังพบว่าฟีเจอร์การเขียนใหม่ด้วย AI มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการปรับแต่งการสื่อสารเพื่อสร้าง engagement บนโซเชียลมีเดีย”

สำหรับ Van Der Holst การเปลี่ยนแปลงได้ขยายไปถึงการผลิตมัลติมีเดีย โดยที่ Adobe Podcast ได้ทำให้หนึ่งในงานที่ใช้เวลานานที่สุดของทีมอย่างการตัดต่อเสียงง่ายขึ้น โดยปกติแล้ว หากจะแก้ไขสิ่งเล็กน้อยเช่นคำที่ออกเสียงผิด ก็จะต้องอัดเสียงทั้งส่วนใหม่ ขณะนี้ ด้วยการแก้ไขตามข้อความของ Adobe Podcast ทีมสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น เมื่อรวมกับการเข้าถึงเพลงปลอดค่าลิขสิทธิ์ ทีมสามารถเร่งการส่งมอบวิดีโอสำหรับลูกค้าได้อย่างมาก

“สิ่งที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์ ตอนนี้สามารถทำได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันด้วยเครื่องมือของ Adobe” Van Der Holst กล่าว “ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับเราและลูกค้าของเรา ซึ่งมองว่าเรามีความคล่องตัวและตอบสนองทันใจได้อย่างเหลือเชื่อ”