
การใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำหรับ digital transformation และประสบการณ์ผู้ใช้
PRISA กำลังดำเนินการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้สำหรับอุปกรณ์มากกว่า 240 ล้านเครื่องในแต่ละเดือนโดยใช้ Adobe Experience Cloud

40%
อัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ลงโฆษณาโดยใช้เซกเมนต์จากโปรไฟล์แบบเรียลไทม์
วัตถุประสงค์
สร้างแพลตฟอร์มส่วนกลางเพื่อจัดการข้อมูลผู้ใช้สำหรับอุปกรณ์มากกว่า 240 ล้านเครื่องในแต่ละเดือน
เพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอเนื้อหาโดยการรวมข้อมูลเชิงลึกด้านบรรณาธิการเข้ากับการวิเคราะห์ข้อมูล
เพิ่มการเติบโตของการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินด้วยกลยุทธ์การขายและการตลาดที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้
สร้างนวัตกรรมการสร้างรายได้จากข้อมูลในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนชุดผลิตภัณฑ์ให้พร้อมสำหรับสภาพแวดล้อมแบบ cookieless
ผลลัพธ์
ข้อมูลที่นำเข้ามาจาก 15 แหล่งที่มา รวมถึงการไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บและแอป การสร้างบัญชี การสมัครสมาชิก อีเมล และโมเดล ML เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่นำไปใช้งานได้
ใช้ ข้อมูลที่รวบรวมจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่เหมาะสมแก่กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม
อัตรา conversion เพิ่มขึ้น 18% สำหรับจดหมายโดยใช้โมเดล propensity
อัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้น 40% สำหรับผู้ลงโฆษณาโดยการแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น
สำหรับคนที่พูดภาษาสเปนหลายล้านคนทั่วยุโรปและอเมริกา PRISA เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในด้านการศึกษา ข่าวสาร เพลง กีฬา และความบันเทิง ด้วยปริมาณการใช้งาน 23 ประเทศ เนื้อหาของ PRISA เข้าถึงอุปกรณ์จำนวน 240 ล้านเครื่องในแต่ละเดือน แบรนด์ที่โดดเด่น ได้แก่ EL País หนึ่งในหนังสือพิมพ์รายวันภาษาสเปนชั้นนำ, Cadena Ser สถานีวิทยุข่าวและข้อมูลชั้นนำของสเปน และ LOS40 สถานีวิทยุเพลงชั้นนำและบริการเพลงออนไลน์ใน 13 ประเทศ
“หลังจากที่เป็นผู้นำด้านสื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุ FM มาหลายทศวรรษ PRISA กำลังมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เว็บไซต์ แอปมือถือ และลำโพงอัจฉริยะ” Nicolás Lozano, ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ข้อมูลของ PRISA อธิบาย “แม้ว่าในภาพรวม วงการสื่อดิจิทัลจะมีการแข่งขันสูงแต่แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและเนื้อหาที่ได้รับการคัดสรรทำให้เรามีข้อได้เปรียบเหนือบริษัทอื่นๆ อย่างมาก เรามีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและพฤติกรรมสื่อจากอุปกรณ์กว่า 240 ล้านเครื่องที่มีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเราทุกเดือน”
PRISA อาจมีข้อมูลจำนวนมาก แต่ก็ขาดวิธีนำไปใช้งานกับผู้ใช้จำนวนมหาศาล ซึ่งต้องกำหนดเป้าหมายผู้คนด้วยการส่งข้อความที่จะทำให้มีส่วนร่วม เชื่อมโยงผู้ลงโฆษณากับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง และสำรวจข้อมูลเชิงลึกที่อาจนำไปสู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ สำหรับลูกค้า ในขณะเดียวกัน PRISA ต้องมีวิธีจัดการความยินยอมและปฏิบัติตามกฎระเบียบความเป็นส่วนตัวระหว่างประเทศในระดับใหญ่
การเพิ่ม เมื่อเพิ่ม Adobe Real-Time Customer Data Platform ลงในผลิตภัณฑ์ของ Adobe Experience Cloud ที่มีอยู่ของบริษัท รวมถึง Adobe Analytics, Campaign, Target, Audience Manager และเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลของ Adobe เท่ากับว่า PRISA ได้ส่งเสริมโครงการ PRISA ID ของบริษัทเอง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างข้อมูลระบุตัวตนโดยใช้ข้อมูลสำหรับลูกค้าแต่ละรายในที่เดียว
“เราเลือก Adobe Experience Cloud เพราะมีแนวทางด้านชุดเทคโนโลยีแบบเปิดและชุดความสามารถในการจัดการประสบการณ์ผู้ใช้แบบองค์รวม” Nicolás Lozano กล่าว “การมีฟีเจอร์ทั้งหมดที่เราต้องการในแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเดียวช่วยให้เราสามารถใช้ข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อกับผู้อ่าน ผู้ฟัง และผู้ชมผ่านแพลตฟอร์มสื่อได้อย่างไร้รอยต่อ”
“ด้วยการแบ่งเซกเมนต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ามากขึ้น อัตราการคลิกผ่านสำหรับผู้ลงโฆษณาของเราเพิ่มขึ้น 40% ส่งผลให้พาร์ทเนอร์โฆษณาไว้วางใจเรามากยิ่งขึ้น”
Manuel Castro
ผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างรายได้ของ PRISA
การทำความเข้าใจลูกค้าผ่านมุมมองแบบองค์รวมเดียว
PRISA ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Adobe เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง Analytics ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้และติดตามประสิทธิภาพในทุกช่องทาง ซึ่งช่วยให้ทีมระบุช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงและแหล่งที่มาของการเข้าชมที่มีประสิทธิภาพ
นักการตลาดเริ่มติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงโดยใช้ Campaign เพื่อส่งจดหมายข่าวทางอีเมลที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ทีมสร้างจดหมายข่าวมากกว่า 100 ฉบับเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อมูลและข้อความที่เกี่ยวข้องมากที่สุด จากนั้น PRISA ได้ใช้ Target เพื่อเพิ่มจำนวนสมาชิกโดยส่งมอบข้อเสนอที่เกี่ยวข้องมากที่สุดให้กับผู้คนบนเว็บ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรักษาสมาชิกไว้และใช้เวลากับเนื้อหามากขึ้น
หลังจาก Salesforce ประกาศการหยุดให้บริการโซลูชัน DMP ทาง PRISA ก็หาแพลตฟอร์มที่จะผสานรวมทั้งข้อมูลผู้ใช้ทั้งที่ระบุตัวตนและไม่ระบุตัวตนได้อย่างไร้รอยต่อ เป้าหมายคือการสร้างชุดผลิตภัณฑ์การสร้างรายได้จากข้อมูลที่เตรียมไว้สำหรับโลก cookieless พร้อม data clean room ไว้ให้บริการ สิ่งนี้นำไปสู่การนำ Real-Time CDP มาใช้เพื่อช่วยให้ PRISA สามารถสร้างโปรไฟล์แบบรวมศูนย์ที่นำไปใช้งานได้สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ข้อมูลจะได้รับการนำเข้าจากแหล่งข้อมูลมากกว่า 15 แห่ง รวมถึงข้อมูลพฤติกรรมจากเว็บและแอป ข้อมูลการสมัครสมาชิกของลูกค้า ข้อมูลการเข้าสู่ระบบผ่านโซเชียลมีเดีย และข้อมูลเชิงลึกของคอลเซ็นเตอร์
PRISA พัฒนาเซกเมนต์โดยใช้โปรไฟล์ลูกค้าเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วทันใจ นักการตลาดที่ทำงานให้กับแบรนด์ต่างๆ จะสามารถใช้เซกเมนต์เหล่านี้เพื่อช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้โมเดล propensity ในการส่งจดหมายข่าวที่เหมาะสมช่วยเพิ่มสมาชิก โดยอัตรา conversion เพิ่มขึ้น 18% นอกจากนี้ เซกเมนต์ต่างๆ จะส่งไปยังระบบของ third-party เช่น Triton และ Xandr โดยใช้ Audience Manager
“เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากการย้ายมาใช้งาน Real-Time CDP โดยมีอัตราการจับคู่สูงขึ้นมากสำหรับผู้ใช้” Manuel Castro ผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างรายได้ของ PRISA กล่าว “ด้วยการแบ่งเซกเมนต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ามากขึ้น อัตราการคลิกผ่านสำหรับผู้ลงโฆษณาของเราเพิ่มขึ้น 40% ส่งผลให้พาร์ทเนอร์โฆษณาไว้วางใจเรามากยิ่งขึ้น”
“Real-Time CDP ช่วยให้ทีมของเราสามารถตรวจสอบสมมติฐานและสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับ use cases ได้อย่างง่ายดาย”
Nicolás Lozano
ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ข้อมูลของ PRISA
การเข้าถึงข้อมูลสำหรับทุกคนในทีมที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ทางเทคนิค
การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น การนำทาง การลงทะเบียน การมีส่วนร่วมทางอีเมล ข้อเสนอแนะของคอลเซ็นเตอร์ และสถานะการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินเคยเป็นงานที่ยากลำบาก Real-Time CDP ได้ปฏิวัติกระบวนการนี้สำหรับ PRISA โดยนำข้อมูลมารวมกันได้อย่างง่ายดายเพื่อให้ทุกทีมสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกได้
“ในสายการทำงานของเรา มักจะต้องพึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญหรือการดึงข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องจัดการกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย” Nicolás Lozano กล่าว “ตอนนี้ Real-Time CDP ช่วยให้ทีมของเราสามารถตรวจสอบสมมติฐานและสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับ use cases ได้อย่างง่ายดาย”
เป็นผู้นำในอนาคตของวงการสื่อ
หลังจากใช้งาน CDP แล้ว PRISA สามารถใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสำหรับแบรนด์ต่างๆ ได้ การนำเสนอเฉพาะบุคคลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะช่วยดึงดูดสมาชิกใหม่ๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายกับผู้ลงโฆษณา การมีมุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับลูกค้าจะช่วยให้ค้นพบโอกาสในการขายพ่วงและการขายแบบอัปเซลล์ รวมถึงจุดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ
“ข้อมูล first-party เป็นหนึ่งใน assets ที่ทรงพลังที่สุดที่มีให้เลือกใช้ในการตลาดสมัยใหม่ แต่การมีระบบนิเวศที่ช่วยลดความซับซ้อนในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่า” Nicolás Lozano กล่าว “Experience Cloud ช่วยให้เราสามารถใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อปรับปรุงประสบการณ์สำหรับทั้งกลุ่มเป้าหมายและพาร์ทเนอร์โฆษณาของเรา”