ฟีเจอร์ของ Adobe Analytics

Content Analytics (เร็วๆ นี้)

วัดผลประสิทธิภาพของ asset ครีเอทีฟผ่านช่องทางต่างๆ ด้วยรายงานและการแสดงข้อมูลด้วยภาพแบบเจาะลึก บริการ AI และ Machine Learning (ML) และข้อมูลเชิงลึกของเนื้อหาที่หลากหลายช่วยให้ทีมของคุณจะสามารถระบุแนวโน้มและลักษณะเฉพาะด้านครีเอทีฟที่ขับเคลื่อน engagement ของลูกค้าได้ เพื่อให้ทีมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาในวงกว้าง และผลักดันผลกระทบทางธุรกิจที่แท้จริง

การวิเคราะห์เนื้อหา

Adobe Content Analytics ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ประเมินข้อมูลเนื้อหาครีเอทีฟจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย เพื่อค้นหาแนวโน้มและความผิดปกติ ระบุความเหนื่อยล้าต่อเนื้อหา ระบุเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และค้นพบข้อมูลเชิงลึกจากการเปิดรับเนื้อหา

  • Adobe Experience Platform Web SDK นำข้าข้อมูลเนื้อหาครีเอทีฟทั้งแบบชำระเงินและที่เป็นเจ้าของในแบบเกือบเรียลไทม์โดยใช้ Adobe Experience Platform Web SDK ด้วยสิ่งนี้ คุณสามารถเพิ่มความคล่องตัวให้การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชันของ Adobe และวิเคราะห์ประสิทธิภาพแบบละเอียดได้ ดูจำนวนอิมเพรสชันของ asset ตามหน้าและดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ asset ครีเอทีฟของคุณตามแคมเปญ อุปกรณ์ และแอตทริบิวต์อื่นๆ
  • มุมมองข้อมูลเนื้อหา ปรับมุมมองข้อมูลของคุณเพื่อแสดงประสิทธิภาพด้านครีเอทีฟด้วยภาพควบคู่ไปกับกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้าทั้งกระบวนการได้ไม่ยาก ดูว่าการเปิดเผยเนื้อหาส่งผลต่อการดำเนินการที่ต้องการ เช่น การสมัคร การเข้าชม การสมัครรับข้อมูล หรือการซื้ออย่างไร
  • สรุปแหล่งที่มาข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของเนื้อหาที่สรุปในระดับแอตทริบิวต์ครีเอทีฟอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าแง่มุมใดของเนื้อหาของคุณ (เช่น สี ธีม และอารมณ์) ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
การวิเคราะห์องค์ประกอบที่ส่งผลต่ออัตราการคลิกผ่านของหน้าหลัก

การวิเคราะห์โฆษณาโซเชียลและ AI ของแอตทริบิวต์การออกแบบอันดับต้นๆ

แอตทริบิวต์จากการประมวลด้วย AI

ประหยัดเวลาและต้นทุน และเข้าใจประสบการณ์เนื้อหาของคุณได้ดีขึ้นด้วยความช่วยเหลือของบริการ AI และ ML ที่จะแยก จัดระเบียบ และวิเคราะห์แอตทริบิวต์ของเนื้อหาโดยอัตโนมัติ เช่น สี พื้นหลังภาพ อารมณ์ ความสวยงาม และคำสำคัญ

  • บริการระบุที่มาเนื้อหา AI และ ML ใช้บริการข้อมูลระบุตัวตนเพื่อเชื่อมโยงการบริโภคเนื้อหากับ ID ลูกค้าที่ไม่ซ้ำกัน AI สามารถเชื่อมโยงคุณลักษณะครีเอทีฟที่มีเอกลักษณ์และ engagement ของลูกค้าที่เกิดซ้ำกับเนื้อหาครีเอทีฟเพื่อกำหนดประสิทธิภาพของ asset ด้วยลักษณะทั่วไป
  • การแยกย่อยเชิงมิติ ดูแอตทริบิวต์เนื้อหา รวมถึงจากการประมวลด้วย AI ในตาราง freeform ที่สามารถแบ่งย่อยตามตัวกรองกลุ่มเป้าหมายและมิติข้อมูล เช่น เซกเมนต์ ช่องทาง แคมเปญ ประเภทอุปกรณ์ และอื่นๆ

การกำกับดูแลข้อมูลเนื้อหา

ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการกำกับดูแลอันแข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดย Adobe Experience Platform ที่มีความสำคัญต่อความสมบูรณ์ของข้อมูลและข้อกำหนดขององค์กร ความสามารถในการติดป้ายกำกับข้อมูลและการจัดทำแค็ตตาล็อกพร้อมสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่เข้มงวด ช่วยให้องค์กรจัดการโฟลว์ของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามว่าส่งมอบเนื้อหาที่ใด และรักษากฎระเบียบ

  • การติดป้ายกำกับและการจัดทำแค็ตตาล็อก สร้าง จัดการ จัดระเบียบ และบังคับใช้นโยบายการใช้เนื้อหาด้วยการติดป้ายกำกับ การจัดทำแค็ตตาล็อก และเทมเพลตที่ใช้งานได้ทันที ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของแบรนด์
  • การเชื่อมโยงกลับไปยังข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลซ้ำ แก้ไขข้อผิดพลาดที่พบในข้อมูลเนื้อหาได้อย่างง่ายดายได้ทันที เช่น การจำแนกผิดประเภท การทำซ้ำ หรือการประมวลผลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อประหยัดเวลาและปรับปรุงความสมบูรณ์ของข้อมูลและการวิเคราะห์
  • พจนานุกรมข้อมูล เข้าใจและติดตามส่วนประกอบเฉพาะที่เฝ้าสังเกตและวิเคราะห์ได้ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงชุดข้อมูลเนื้อหาครีเอทีฟเพื่อให้ชุดข้อมูลมีความสมบูรณ์และถูกต้อง
ป้ายกำกับจำกัดการใช้ข้อมูล

มาพูดคุยกันว่า Adobe Content Analytics สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไรบ้าง

เริ่มต้นใช้งาน

นักการตลาดกำลังประเมินข้อมูลเชิงลึกด้านพฤติกรรมตามช่องทางโดยใช้ AI