#000000
#000000

สัมผัสกับไลฟ์สไตล์

Monster Energy ส่งตรงความตื่นเต้นของอีเวนต์ระดับโลกถึงแฟนๆ ด้วย Adobe Creative Cloud และ Frame.io

Monster Energy

ก่อตั้งเมื่อ

ปี 2545

พนักงาน: มากกว่า 5,000 คน

Corona, California

www.monsterenergy.com

50%

ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นด้วยการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและการอนุมัติวิดีโอ

ผลิตภัณฑ์:

Frame.io

Adobe Premiere Pro

Adobe After Effects

Adobe Stock

Adobe Substance 3D Collection

Adobe Firefly

วัตถุประสงค์

เร่งกระบวนการตรวจสอบและการอนุมัติวิดีโอสำหรับพนักงานที่กระจายตัวอยู่หลายที่ ทำงานจากระยะไกล และอยู่ระหว่างเดินทาง

ตอบรับความต้องการเนื้อหาวิดีโอที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

สร้างคลังเก็บเนื้อหาแบบรวมศูนย์เพื่อส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำและรักษาความสอดคล้องของแบรนด์

ปรับปรุงประสิทธิภาพการสร้างเนื้อหาเพื่อนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอีเวนต์ที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น

ผลลัพธ์

ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น 50% ด้วยการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติโดยทีมที่ทำงานจากระยะไกล

ประหยัดเวลาทีมครีเอทีฟวันละมากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อคน ทำให้มีเวลาเหลือสำหรับงานสร้างสรรค์อื่นๆ

ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน ด้วยคลังวิดีโอส่วนกลางเพื่อให้ทีมต่างๆ แชร์และค้นหาคลิปวิดีโอ

เร่งการสร้างเนื้อหา โดยใช้ Adobe Stock และ Generative AI เพื่อคิดไอเดียได้เร็วขึ้น

เมื่อพูดถึงแบรนด์ Monster Energy ผู้คนจะนึกถึงพลัง ความเข้มข้น และความตื่นเต้น Monster Energy แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังระดับโลกที่รู้จักกันดีว่าเหมาะกับผู้ที่มุ่งมั่นทำงานหนัก ได้ขยายแบรนด์ให้เติบโตโดยไม่ใช้โฆษณาแบบเดิมๆ แต่ผ่านการสนับสนุนผู้ที่มุ่งมั่นทำในสิ่งที่รัก เช่น นักกีฬา ศิลปิน นักสู้ นักดนตรี และเกมเมอร์ Monster ติดตามผู้ที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ครอบคลุมอีเวนต์มากกว่า 1,500 อีเวนต์ต่อปี และแชร์ความสำเร็จผ่านโซเชียลมีเดีย, YouTube และเว็บไซต์ของ Monster

Phillip Kauffman ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Digital Asset Management ของ Monster Energy ใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงต้นอาชีพสะท้อนจิตวิญญาณแห่งความคิดสร้างสรรค์ของ Monster เขาได้สร้างงานออกแบบแอร์บรัชที่มีรางวัลการันตีสำหรับยานพาหนะทุกประเภท และเดินทางไปทั่วโลกในฐานะช่างภาพและนักออกแบบสำหรับโปรโมชั่นและแบรนด์ใหญ่ๆ ในบทบาทปัจจุบัน Kauffman ผสมผสานความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์เข้ากับประสบการณ์หลายปีในการทำงานร่วมกับทีมธุรกิจและทีมทางเทคนิค เพื่อส่งมอบเนื้อหาคุณภาพให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

“มีหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้แบรนด์โดดเด่น” Kauffman กล่าว “สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ ถ้าคุณดูที่โลโก้ Monster อันเป็นเอกลักษณ์ จะเห็นเฉดสีเขียวที่เฉพาะตัวมาก ถ้างานพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ เว็บไซต์ วิดีโอ และอุปกรณ์ที่มีแบรนด์มีสีไม่เหมือนกัน ก็จะไม่ใช่ Monster อีกต่อไป เราต้องการแชร์ assets ได้ง่าย เพื่อให้ผู้คนสามารถค้นหาเวอร์ชันที่เหมาะสมได้ตลอดเวลา”

เมื่อกลุ่มเป้าหมายต้องการ engagement มากขึ้น ผู้บริหารจึงมอบหมายให้ Kauffman เปลี่ยนแปลง content supply chain เพื่อช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ค้นหาและนำ assets กลับมาใช้ซ้ำ และตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการรายงานข่าวเกี่ยวกับนักกีฬาและอีเวนต์ของ Monster Energy Kauffman และทีมไอทีได้ดำเนินการสำรวจเป็นเวลาหกเดือน โดยวางแผนสถานะปัจจุบันของการสร้างเนื้อหาที่ Monster และเปรียบเทียบกับเป้าหมายของบริษัท หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือการตรวจสอบและการอนุมัติกับพนักงานที่ทำงานจากหลายที่

ด้วยการผสานรวม Frame.io เข้ากับเวิร์กโฟลว์วิดีโอ Adobe Premiere Pro ที่มีอยู่ ทีมที่ทำงานจากทุกที่ในโลกจึงสามารถให้ข้อเสนอแนะและช่วยส่งมอบวิดีโอที่ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นกับแบรนด์ Monster

“เรากำลังลดระยะเวลาออกสู่ตลาดลง 50% ขณะที่ทีมยังมีเวลาเพียงพอในการสร้างสรรค์และส่งมอบวิดีโอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราสนใจ”

Phillip Kauffman

ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Digital Asset Management ที่ Monster Energy

ตอบสนองความต้องการเนื้อหาวิดีโอที่เพิ่มมากขึ้น

Monster เผยแพร่คลิปวิดีโอประมาณ 3,000 คลิปต่อปีผ่านช่องทางการตลาดต่างๆ และอีก 1,000 คลิปสำหรับใช้งานภายใน ซึ่งเพิ่มขึ้น 200% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นคลิปสั้นๆ ประมาณหนึ่งนาทีหรือน้อยกว่านั้นที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย แม้ว่าบางคลิปอาจยาวถึง 10 นาที ทีม Monster สร้างคลิปจำนวนมากขณะเดินทางไปติดตามการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ส่งผลให้การตรวจสอบและการอนุมัติวิดีโอมักเกี่ยวข้องกับผู้ร่วมงานระยะไกล

ก่อนหน้านี้ ทีมวิดีโออัปโหลดวิดีโอเพื่อตรวจสอบผ่านบริการสตรีมมิ่งหรือแชร์ไฟล์ แต่วิดีโอมักกระตุกหรือล่าช้า Frame.io ช่วยเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ ทีมครีเอทีฟแชร์วิดีโอเพื่อตรวจสอบได้โดยคลิกแค่ครั้งเดียว ผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมวิดีโอเวอร์ชันความละเอียดสูงและเพิ่มความเห็นได้ โดยวาดลงบนเฟรมโดยตรงเพื่อให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนขึ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยังสามารถรับชมวิดีโอบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมากสำหรับผู้บริหารที่มีธุรกิจรัดตัวและพนักงานคนอื่นๆ ที่เดินทางบ่อยครั้ง

“การทำงานกับ Frame.io ช่วยประหยัดเวลาทีมครีเอทีฟวันละมากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อคน” Kauffman กล่าว “เรากำลังลดระยะเวลาออกสู่ตลาดลง 50% ขณะที่ทีมมีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการสร้างสรรค์และส่งมอบวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย”

การทำงานร่วมกันเป็นกุญแจสำคัญสำหรับครีเอทีฟที่ Monster โดยมีหลายทีมที่ดำเนินการตรวจสอบวิดีโอ ขั้นตอนต่อไปคือการเปลี่ยน Frame.io ให้เป็นที่เก็บข้อมูลส่วนกลาง เมื่อสร้างเสร็จแล้ว วิดีโอจะได้รับการจัดหมวดหมู่ ติดแท็ก และอัปโหลดไปยัง Frame.io อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ทีมต่างๆ ทั่วทั้งบริษัทค้นหาคลิปที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

“ผมมองว่า Adobe Firefly จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ทีมครีเอทีฟใช้เวลาน้อยลงในการสร้างม็อกอัพหรือวิดีโอสตอรี่บอร์ด ทีมจะสามารถทำซ้ำได้เร็วขึ้นและทดลองใช้ลักษณะใหม่ๆ ได้”

John Martinez

รองประธานฝ่ายครีเอทีฟของ Monster Energy

สร้างสรรค์อย่างรวดเร็วทันใจ

แม้ว่าวิดีโอจะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ด้าน engagement ของ Monster Energy แบรนด์ Monster ยังคงพึ่งพาสื่อที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกที่ ด้วย Adobe Creative Cloud ทีมออกแบบจึงสามารถค้นหาแอปที่ต้องการเพื่อส่งมอบผลงานที่มีคุณภาพได้เร็วขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

ทีมวิดีโอใช้ Premiere Pro และ After Effects ส่วนนักออกแบบคนอื่นๆ มักใช้ Photoshop, Illustrator และ InDesign สำหรับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่เว็บไซต์ไปจนถึงจอแสดงโปรโมชันในร้านค้า รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ Monster วางแผนที่จะเริ่มใช้ Substance 3D Collection เพื่อสร้างโมเดล 3 มิติและการถ่ายภาพเสมือนจริงที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะช่วยให้ทีมสามารถส่งมอบภาพถ่ายผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดจากหลายมุมได้อย่างรวดเร็วด้วยต้นทุนต่ำ เมื่อไม่นานนี้ Monster ยังได้ย้ายไปใช้ Adobe Creative Cloud Pro Plus ทำให้นักออกแบบสามารถใช้ Adobe Stock ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อช่วยให้ทีมของเราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นล้วนสำคัญ” Kauffman กล่าว “Adobe Stock มีศักยภาพสูงมากที่จะช่วยให้ทีมของเรามุ่งเน้นไปที่การขัดเกลาเนื้อหาต้นฉบับโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ b-roll หรือภาพพื้นหลัง”

Kauffman ยังเห็นศักยภาพของ Generative AI ที่ช่วยประหยัดเวลา “ผมมองว่า Adobe Firefly จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ทีมครีเอทีฟใช้เวลาน้อยลงในการสร้างม็อกอัพหรือวิดีโอสตอรี่บอร์ด” John Martinez รองประธานฝ่ายครีเอทีฟของ Monster Energy กล่าว “ทีมจะสามารถทำซ้ำได้เร็วขึ้นและทดลองใช้ลักษณะใหม่ๆ ได้ และด้วย Firefly ที่ขับเคลื่อนโดย Adobe Stock เราจึงมั่นใจได้ว่าเราสามารถติดตามเนื้อหาและรู้ว่าเรามีสิทธิ์ในเนื้อหานั้น”

Kauffman รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับ Monster เมื่อใช้ Adobe “เมื่อคุณใช้ Adobe Creative Cloud คุณสามารถเพิ่มมิติใหม่ให้กับเวิร์กโฟลว์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายด้วยสิ่งที่เรียกว่า Frame.io” Kauffman กล่าว “ด้วยความสามารถของ Adobe Creative Cloud เราช่วยให้ทีมครีเอทีฟของเราทำให้แฟนๆ กลับมาดูความตื่นเต้นใหม่ๆ ที่ Monster Energy นำเสนอ”

เพิ่มพูนความรู้ของคุณ

เจาะลึกยิ่งขึ้นเกี่ยวกับระบบที่ทุกคนทำงานร่วมกันได้ ทั้งเพื่อนร่วมทีม, องค์กร, ประเภท asset และอื่นๆ ด้วย Frame.io, Creative Cloud และ Adobe Stock เรียนรู้วิธีทำงานร่วมกันในวงกว้างและยกระดับโปรเจกต์วิดีโอถัดไปของคุณได้ที่หัวข้อ Democratizing Collaboration with Frame.io and Creative Cloud